|
Post by Father on Aug 7, 2017 19:53:40 GMT 7
เหลืออีกสามกล่อง ใกล้จะเสร็จแล้ว~ ชายหนุ่มคิดอย่างอารมณ์ดีหลังจากไปเดินส่งอาหารมาเกือบทั้งวัน ตามลิสต์ที่คุณลุงให้มา คนต่อไปที่เขาต้องส่งให้คือคุณพ่อคาร์เตอร์ บาทหลวงประจำโบสถ์ แต่เหมือนมอร์เฟียสจะไม่ต้องเดินหาในโบสถ์ เพราะเมื่อเขามาถึงก็เจออีกฝ่ายกำลังซ่อมแซมประตูโบสถ์อยู่
"สวัสดีครับ...เอ่อ...คุณพ่อคาร์เตอร์รึเปล่าครับ ผมมอร์เฟียสครับ เป็นชาวสวนคนใหม่ของลุงแพซตัน"
เขาถามให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายใช่คนที่กำลังตามหาอยู่รึเปล่า โดยที่ไม่ลืมแนะนำตัวเองไปด้วย
ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับเด็กหนุ่มหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน
“ครับ ครับ” เป็นการตอบรับทั้งสองประโยคของอีกฝ่าย “พ่อเป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี่น่ะ ส่วนเราก็ คนสวนใหม่ของแพชตันใช่ไหม”
เสียงหักนิ้วมือดังออกมาจากตัวของบาทหลวง ดูเหมือนจะใช้เวลานานไปหน่อยสำหรับการออกแรงซ่อมแซมประตูใหญ่ “ถ้าเปรียบกับประตูให้เป็นเด็ก บางทีพ่อว่าเขาก็เอาใจยากเหมือนกันนะ” คำพูดทีเล่นทีจริงถูกเปล่งออกไปเพื่อเป็นการคลายบรรยากาศ “ว่าแต่มีอะไรให้พ่อช่วยเหลือรึเปล่าลูก ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้ คงต้องรอพักใหญ่เลยล่ะครับ”
|
|
|
Post by Father on Aug 7, 2017 20:00:50 GMT 7
ชายวัยกลางคนยืนอัดยาสูบอยู่ริมหน้าต่างห้องทำงานที่เปิดออกไปสู่ราวป่า ลมพัดเอากลิ่นไม้ซีดาร์ หญ้าและมอสเข้ามา ผสมกับกลิ่นอาฟเตอร์เชฟที่เข้มข้นไปด้วยเบอร์การ์ม็อต เขาสูบเอาไอของมันเข้าปอดฟอดใหญ่ ก่อนดับบุหรี่ที่เหลือเกินครึ่งมวน
พอนึกถึงตอนที่ยังสูบจัด สมัยวัยรุ่นคึกคะนองนั่นเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขาไม่น้อย แต่มันก็ให้บทเรียนมากพอที่จะไม่กลับไปทำอะไรโง่ๆ อีก
บาทหลวงบิดขี้เกียจ สูดลมหายใจ สลัดเรื่องราวในอดีตออกจากหัว หันขวับเดินย่ำส้นรองเท้าไปที่ประตูห้องทำงานเล็กที่อยู่ติดกับห้องสารภาพบาป
งานของเขาไม่ได้มีแค่เผยแพร่คำสอนของพระองค์ ยังมีหน้าที่อีกมากมายที่เขาต้องให้ในบ้านหลังใหญ่ หรือก็คือโบสถ์แห่งนี้
เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพบว่าประตูใหญ่ตรงบริเวณทางเข้าเริ่มมีอาการชำรุด มันฝืดจนเด็กเล็กออกแรงผลักไม่ได้ ถ้าไม่อาศัยแรงผู้ใหญ่อย่างเขาเข้าไปช่วย กล่องเครื่องมือที่ตั้งไว้รกห้องถูกหยิบมาทำงานของมันทันที
‘เอี๊ยด..’
อย่างน้อยก็ยังพอเปิดได้
เขาแทรกตัวออกมาจากช่องเล็กของบานประตูเพื่อที่จะได้เป็นฝ่ายยืนอยู่ข้างนอก เพลงโปรดที่ฝังติดอยู่ในหัวถูกนำมาผิวปากเป็นทำนองอย่างที่ตัวเองชอบ ขณะเดียวกันกับการเริ่มลงมือซ่อมแซม
ลมพัดวูบผ่านไป จมูกได้กลิ่นไม้ซีดาร์ หญ้าและมอส อบอวลไปทั่ว ร่างสูงเพรียวเดินถือตะกร้าที่ไม่หนักมากเหมือนตอนเช้ามายังโบสถ์สีขาวนวล
นัยน์ตาสีน้ำผึ้งคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ พลางคลี่ยิ้มแบบที่เห็นได้น้อยครั้ง ให้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ เพราะมันเป็นรอยยิ้มละมุนละไมที่ดูอ่อนหวาน ซึ่งซาแมนธาจะยิ้มแบบนี้ให้กับอะไรก็ตามที่สำคัญและพิเศษสำหรับเธอจริงๆ เท่านั้น และ พระเจ้า ก็คืออันดับหนึ่งเหนือทุกสิ่งทุกอย่างในใจของเธอเอง
หญิงสาวเดินเข้ามาตามทางเดินจนถึงด้านหน้าประตูบานใหญ่ มองเห็นแผ่นหลังของบาทหลวงท่านหนึ่ง--เธอรู้เพราะชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่ กำลังผิวปากเป็นทำนองเพลงเก่า และดูเหมือนกำลังทำการซ่อมแซ่มบานประตู ด้วยเครื่องมือชนิดต่างๆ ที่วางอยู่ใกล้เคียงกัน
ซาแมนธาคลี่ยิ้มสุภาพ "...ให้หนูช่วยไหมคะคุณพ่อ" นั่นคือคำพูดแรกของเธอ
ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับหญิงสาวหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกลูก” เสียงนุ่มทุ้มถูกเปล่งออกไป “เดิมที ประตูใหญ่มันก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พ่อต้องลงมือซ่อมอยู่หลายครั้งเชียวล่ะ” เขาเว้นช่วง ก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่หากลูกต้องการจะเข้าไปในโบสถ์ พ่อขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหม” ใจของบาทหลวงเอง ก็อยากจะต้อนรับคนมาโบสถ์ให้ดิบดีกว่านี้ แต่ก็อย่างที่เห็น เด็กในมือเขาเอาใจยากเหลือเกิน
|
|
|
Post by Father on Aug 7, 2017 20:03:13 GMT 7
ชายวัยกลางคนยืนอัดยาสูบอยู่ริมหน้าต่างห้องทำงานที่เปิดออกไปสู่ราวป่า ลมพัดเอากลิ่นไม้ซีดาร์ หญ้าและมอสเข้ามา ผสมกับกลิ่นอาฟเตอร์เชฟที่เข้มข้นไปด้วยเบอร์การ์ม็อต เขาสูบเอาไอของมันเข้าปอดฟอดใหญ่ ก่อนดับบุหรี่ที่เหลือเกินครึ่งมวน
พอนึกถึงตอนที่ยังสูบจัด สมัยวัยรุ่นคึกคะนองนั่นเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขาไม่น้อย แต่มันก็ให้บทเรียนมากพอที่จะไม่กลับไปทำอะไรโง่ๆ อีก
บาทหลวงบิดขี้เกียจ สูดลมหายใจ สลัดเรื่องราวในอดีตออกจากหัว หันขวับเดินย่ำส้นรองเท้าไปที่ประตูห้องทำงานเล็กที่อยู่ติดกับห้องสารภาพบาป
งานของเขาไม่ได้มีแค่เผยแพร่คำสอนของพระองค์ ยังมีหน้าที่อีกมากมายที่เขาต้องให้ในบ้านหลังใหญ่ หรือก็คือโบสถ์แห่งนี้
เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพบว่าประตูใหญ่ตรงบริเวณทางเข้าเริ่มมีอาการชำรุด มันฝืดจนเด็กเล็กออกแรงผลักไม่ได้ ถ้าไม่อาศัยแรงผู้ใหญ่อย่างเขาเข้าไปช่วย กล่องเครื่องมือที่ตั้งไว้รกห้องถูกหยิบมาทำงานของมันทันที
‘เอี๊ยด..’
อย่างน้อยก็ยังพอเปิดได้
เขาแทรกตัวออกมาจากช่องเล็กของบานประตูเพื่อที่จะได้เป็นฝ่ายยืนอยู่ข้างนอก เพลงโปรดที่ฝังติดอยู่ในหัวถูกนำมาผิวปากเป็นทำนองอย่างที่ตัวเองชอบ ขณะเดียวกันกับการเริ่มลงมือซ่อมแซม
โบสถ์... อลันกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่ใช่เส้นทางคู่ขนานกันมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น เขาเดินหนีออกจากเส้นทางของพระเจ้า เพราะพระองค์พิสูจน์แล้วว่าท่านทรงไม่ต่างจากซานตาครอสในวันคริสมาสตร์ เงยหน้ามองไม้กางเขนเหนือยอดหลังคากำลังตรึงร่างของพระผู้เป็นเจ้าในวันที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก หลากหลายความคิดวนเวียนอยู่ในหัว เหมือนภาพวิดีโอที่ถูกกรอซ้ำไปซ้ำมา อาจจะเป็นเพียงชั่ววิ หรือเนิ่นนานเป็นนาที เสียงผิวปากสูงต่ำฟังเป็นทำนอง ดึงตัวเขาเองกลับมาในปัจจุบัน เตือนสติตนเองว่ายังคงมีภารกิจที่จำเป็นต้องทำอยู่ อาหารอีก 3 กล่องเริ่มเย็นชืดแต่ยังดีที่มันเป็นแค่ขนมหวาน
ตรงหน้าบานประตูคือชายวัยกลางคน กำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่าง อนุมานจากอุปกรณ์ในมือแล้วประตูทางเข้าโบสถ์คงมีปัญหาใหญ่ สองมือหิ้วกล่องอหารเดินเข้าไปหา ถามไถ่ "สวัสดีครับคุณพ่อ... มีอะไรพอให้ผมช่วยไหม?" ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับเด็กหนุ่มหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน เขาสังเกตจากตะกร้าที่อีกฝ่ายนำมาด้วย หมอนั่นก็มักจะมีอะไร วานให้คนอื่นทำแทนตลอด การผูกมิตรไปในตัว กับธุระของตนเสร็จไปพร้อมกันคงจะเป็นเรื่องดี
“ถ้าเปรียบกับประตูให้เป็นเด็ก บางทีพ่อว่าเขาก็เอาใจยากเหมือนกันนะ” คำพูดทีเล่นทีจริงถูกเปล่งออกไป บาทหลวงส่ายหัวเล็กน้อยสำหรับความช่วยเหลือ “ไม่เป็นอะไรหรอกลูก แค่นี้สบายมาก แต่ว่า” เขาเว้นช่วงก่อนจะกล่าวต่อ “ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้คงต้องรอก่อนนะครับ”
|
|
|
Post by morpheus on Aug 7, 2017 20:14:47 GMT 7
เหลืออีกสามกล่อง ใกล้จะเสร็จแล้ว~ ชายหนุ่มคิดอย่างอารมณ์ดีหลังจากไปเดินส่งอาหารมาเกือบทั้งวัน ตามลิสต์ที่คุณลุงให้มา คนต่อไปที่เขาต้องส่งให้คือคุณพ่อคาร์เตอร์ บาทหลวงประจำโบสถ์ แต่เหมือนมอร์เฟียสจะไม่ต้องเดินหาในโบสถ์ เพราะเมื่อเขามาถึงก็เจออีกฝ่ายกำลังซ่อมแซมประตูโบสถ์อยู่
"สวัสดีครับ...เอ่อ...คุณพ่อคาร์เตอร์รึเปล่าครับ ผมมอร์เฟียสครับ เป็นชาวสวนคนใหม่ของลุงแพซตัน"
เขาถามให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายใช่คนที่กำลังตามหาอยู่รึเปล่า โดยที่ไม่ลืมแนะนำตัวเองไปด้วย
ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับเด็กหนุ่มหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน
“ครับ ครับ” เป็นการตอบรับทั้งสองประโยคของอีกฝ่าย “พ่อเป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี่น่ะ ส่วนเราก็ คนสวนใหม่ของแพชตันใช่ไหม”
เสียงหักนิ้วมือดังออกมาจากตัวของบาทหลวง ดูเหมือนจะใช้เวลานานไปหน่อยสำหรับการออกแรงซ่อมแซมประตูใหญ่ “ถ้าเปรียบกับประตูให้เป็นเด็ก บางทีพ่อว่าเขาก็เอาใจยากเหมือนกันนะ” คำพูดทีเล่นทีจริงถูกเปล่งออกไปเพื่อเป็นการคลายบรรยากาศ “ว่าแต่มีอะไรให้พ่อช่วยเหลือรึเปล่าลูก ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้ คงต้องรอพักใหญ่เลยล่ะครับ”
"ใช่ครับ คุณลุงแพซตันให้ผมเอาของขวัญมาส่งให้" ชายหนุ่มพูดพลางเบนหน้าไปมองตะกร้าที่ตัวเองถือมาด้วย
"พ่อนั่นแหละครับ..." มอร์เฟียสเว้นช่วงไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมาขำๆ "มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า เช่น...ซ่อมประตู? ผมช่วยได้นะครับ" ซ่อมประตูใหญ่ขนาดนี้งานคงหนักน่าดู อย่างน้อยเขาก็น่าจะพอช่วยอะไรได้ล่ะมั้ง?
|
|
S A M
New Farmer
Posts: 648
|
Post by S A M on Aug 7, 2017 20:17:59 GMT 7
ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับหญิงสาวหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกลูก” เสียงนุ่มทุ้มถูกเปล่งออกไป “เดิมที ประตูใหญ่มันก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พ่อต้องลงมือซ่อมอยู่หลายครั้งเชียวล่ะ” เขาเว้นช่วง ก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่หากลูกต้องการจะเข้าไปในโบสถ์ พ่อขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหม” ใจของบาทหลวงเอง ก็อยากจะต้อนรับคนมาโบสถ์ให้ดิบดีกว่านี้ แต่ก็อย่างที่เห็น เด็กในมือเขาเอาใจยากเหลือเกิน “ไม่เป็นอะไรหรอกลูก”
“เดิมที ประตูใหญ่มันก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พ่อต้องลงมือซ่อมอยู่หลายครั้งเชียวล่ะ” “แต่หากลูกต้องการจะเข้าไปในโบสถ์ พ่อขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหม”
ซาแมนธาส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงปฏิเสธ ผมยาวสลวยสีดำขวับไหวไปมาเบาๆ "ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ ไม่ต้องรีบนะคะ หนูขอโทษที่มารบกวน"
ร่างสูงเพรียวโค้งศีรษะให้ชายวัยกลางคนตรงหน้า ก่อนคลี่ยิ้มเรียบร้อยแบบไม่เห็นฟัน "หนูชื่อ ซาแมนธา บรูค คุณพ่อเรียกหนูว่าแซมก็ได้ค่ะ หนูเป็นชาวสวนคนใหม่ของฟาร์มคุณลุงแพซตัน พอดีว่าคุณลุงแกฝากวาน ให้หนูเอาของขวัญวันปีใหม่ย้อนหลังมาให้คุณพ่อค่ะ" หยิบกล่องช็อกโกแลตโทสยื่นส่งให้
"ช็อกโกแลตโทส ถึงจะเป็นของหวาน แต่หนูหวังว่าคุณพ่อจะชอบนะคะ"
|
|
|
Post by Father on Aug 7, 2017 20:28:57 GMT 7
ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับเด็กหนุ่มหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน
“ครับ ครับ” เป็นการตอบรับทั้งสองประโยคของอีกฝ่าย “พ่อเป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี่น่ะ ส่วนเราก็ คนสวนใหม่ของแพชตันใช่ไหม”
เสียงหักนิ้วมือดังออกมาจากตัวของบาทหลวง ดูเหมือนจะใช้เวลานานไปหน่อยสำหรับการออกแรงซ่อมแซมประตูใหญ่ “ถ้าเปรียบกับประตูให้เป็นเด็ก บางทีพ่อว่าเขาก็เอาใจยากเหมือนกันนะ” คำพูดทีเล่นทีจริงถูกเปล่งออกไปเพื่อเป็นการคลายบรรยากาศ “ว่าแต่มีอะไรให้พ่อช่วยเหลือรึเปล่าลูก ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้ คงต้องรอพักใหญ่เลยล่ะครับ”
"ใช่ครับ คุณลุงแพซตันให้ผมเอาของขวัญมาส่งให้" ชายหนุ่มพูดพลางเบนหน้าไปมองตะกร้าที่ตัวเองถือมาด้วย
"พ่อนั่นแหละครับ..." มอร์เฟียสเว้นช่วงไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมาขำๆ "มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า เช่น...ซ่อมประตู? ผมช่วยได้นะครับ" ซ่อมประตูใหญ่ขนาดนี้งานคงหนักน่าดู อย่างน้อยเขาก็น่าจะพอช่วยอะไรได้ล่ะมั้ง?
“อ้อ” พยักหน้าหงึกหงัก เข้าใจแล้วว่าเด็กหนุ่มตั้งใจมาหาเขา ขณะเดียวกับก้มมองตะกร้าในมือของอีกฝ่าย คงจะเป็นของขวัญที่แพชตันไม่มีเวลาเอามาให้ด้วยตัวเอง และคงจะดี หากคนสวนใหม่ได้ผูกมิตรไปในตัว พร้อมกับธุระของตนลุล่วง
“ไม่เป็นไรครับ” เขากล่าว “หยอดน้ำมันเครื่องเดี๋ยวเดียวมันก็ใช้ได้แล้วล่ะ แค่บางทีเอาใจยากเฉยๆ” บาทหลวงว่าติดตลกนิดหน่อย
“อีกอย่าง ให้แขกมาช่วยงานตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็คงกะไรอยู่” ชายวัยกลางคนให้เหตุผลพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
|
|
|
Post by morpheus on Aug 7, 2017 20:39:03 GMT 7
"ใช่ครับ คุณลุงแพซตันให้ผมเอาของขวัญมาส่งให้" ชายหนุ่มพูดพลางเบนหน้าไปมองตะกร้าที่ตัวเองถือมาด้วย
"พ่อนั่นแหละครับ..." มอร์เฟียสเว้นช่วงไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมาขำๆ "มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า เช่น...ซ่อมประตู? ผมช่วยได้นะครับ" ซ่อมประตูใหญ่ขนาดนี้งานคงหนักน่าดู อย่างน้อยเขาก็น่าจะพอช่วยอะไรได้ล่ะมั้ง?
“อ้อ” พยักหน้าหงึกหงัก เข้าใจแล้วว่าเด็กหนุ่มตั้งใจมาหาเขา ขณะเดียวกับก้มมองตะกร้าในมือของอีกฝ่าย คงจะเป็นของขวัญที่แพชตันไม่มีเวลาเอามาให้ด้วยตัวเอง และคงจะดี หากคนสวนใหม่ได้ผูกมิตรไปในตัว พร้อมกับธุระของตนลุล่วง
“ไม่เป็นไรครับ” เขากล่าว “หยอดน้ำมันเครื่องเดี๋ยวเดียวมันก็ใช้ได้แล้วล่ะ แค่บางทีเอาใจยากเฉยๆ” บาทหลวงว่าติดตลกนิดหน่อย
“อีกอย่าง ให้แขกมาช่วยงานตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็คงกะไรอยู่” ชายวัยกลางคนให้เหตุผลพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
"จริงๆไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ แค่ซ่อมประตูเอง แต่ถ้าพ่อว่าอย่างนั้น...ไว้โอกาสหน้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะครับ" อีกฝ่ายว่ายังไงก็ว่าตามกันล่ะนะ พ่อซ่อมประตู ใช้พลังงานเยอะ ให้ 'เสต็กเนื้อวัว' คงจะดี คิดได้อย่างนั้นเขาก็หยิบกล่องอาหารนั้นยื่นให้อีกฝ่ายไปพร้อมกับส่งยิ้มบางให้ "นี่ของขวัญจากคุณลุงครับ"
|
|
Alan
New Farmer
Posts: 482
|
Post by Alan on Aug 7, 2017 20:44:35 GMT 7
โบสถ์... อลันกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่ใช่เส้นทางคู่ขนานกันมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น เขาเดินหนีออกจากเส้นทางของพระเจ้า เพราะพระองค์พิสูจน์แล้วว่าท่านทรงไม่ต่างจากซานตาครอสในวันคริสมาสตร์ เงยหน้ามองไม้กางเขนเหนือยอดหลังคากำลังตรึงร่างของพระผู้เป็นเจ้าในวันที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก หลากหลายความคิดวนเวียนอยู่ในหัว เหมือนภาพวิดีโอที่ถูกกรอซ้ำไปซ้ำมา อาจจะเป็นเพียงชั่ววิ หรือเนิ่นนานเป็นนาที เสียงผิวปากสูงต่ำฟังเป็นทำนอง ดึงตัวเขาเองกลับมาในปัจจุบัน เตือนสติตนเองว่ายังคงมีภารกิจที่จำเป็นต้องทำอยู่ อาหารอีก 3 กล่องเริ่มเย็นชืดแต่ยังดีที่มันเป็นแค่ขนมหวาน
ตรงหน้าบานประตูคือชายวัยกลางคน กำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่าง อนุมานจากอุปกรณ์ในมือแล้วประตูทางเข้าโบสถ์คงมีปัญหาใหญ่ สองมือหิ้วกล่องอหารเดินเข้าไปหา ถามไถ่ "สวัสดีครับคุณพ่อ... มีอะไรพอให้ผมช่วยไหม?" ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับเด็กหนุ่มหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน เขาสังเกตจากตะกร้าที่อีกฝ่ายนำมาด้วย หมอนั่นก็มักจะมีอะไร วานให้คนอื่นทำแทนตลอด การผูกมิตรไปในตัว กับธุระของตนเสร็จไปพร้อมกันคงจะเป็นเรื่องดี
“ถ้าเปรียบกับประตูให้เป็นเด็ก บางทีพ่อว่าเขาก็เอาใจยากเหมือนกันนะ” คำพูดทีเล่นทีจริงถูกเปล่งออกไป บาทหลวงส่ายหัวเล็กน้อยสำหรับความช่วยเหลือ “ไม่เป็นอะไรหรอกลูก แค่นี้สบายมาก แต่ว่า” เขาเว้นช่วงก่อนจะกล่าวต่อ “ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้คงต้องรอก่อนนะครับ”
ถ้าจะบอกว่าไม่เข้าใจประโยคนั่นเลยก็ไม่ผิดซะทีเดียว งานตีใจความไม่ใช่เรื่องถนัดนัก แต่ที่เข้าใจแน่ๆ คืออีกฝ่ายปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือจากเขา ซึ่ง...ก็ไม่เป็นไร
“ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้คงต้องรอก่อนนะครับ” "เปล่า" อลันปฏิเสธประโยคนั้นเสียงเบา เบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แล้วเปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนคำถาม
"ผมมาหาคุณพ่อคาร์เตอร์ครับ" คงเป็นคุณสินะ ประโยคท้ายถูกเก็บไว้ในลำคอ "คุณแพซตันวานให้ผม...เอาของขวัญปีใหม่มามอบให้คุณพ่อ" อลันกระแอม ลืมไปว่าตัวเองลืมแนะนำตัว "ผมชื่ออลัน อลัน ฮิลส์ คนงานที่เพิ่งสมัครมาช่วยทำฟาร์มคุณแพซตัน"
เขาเหลือกล่องอาหารในมือเพียงแค่ 3 กล่อง ขมวดคิ้วก่อนจะเงยหน้าถาม "คุณพ่อชอบเลขไหนเหรอครับ? ระหว่าง1-2 และ3"
|
|
|
Post by Father on Aug 7, 2017 20:45:31 GMT 7
ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับหญิงสาวหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกลูก” เสียงนุ่มทุ้มถูกเปล่งออกไป “เดิมที ประตูใหญ่มันก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พ่อต้องลงมือซ่อมอยู่หลายครั้งเชียวล่ะ” เขาเว้นช่วง ก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่หากลูกต้องการจะเข้าไปในโบสถ์ พ่อขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหม” ใจของบาทหลวงเอง ก็อยากจะต้อนรับคนมาโบสถ์ให้ดิบดีกว่านี้ แต่ก็อย่างที่เห็น เด็กในมือเขาเอาใจยากเหลือเกิน “ไม่เป็นอะไรหรอกลูก”
“เดิมที ประตูใหญ่มันก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พ่อต้องลงมือซ่อมอยู่หลายครั้งเชียวล่ะ” “แต่หากลูกต้องการจะเข้าไปในโบสถ์ พ่อขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหม”
ซาแมนธาส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงปฏิเสธ ผมยาวสลวยสีดำขวับไหวไปมาเบาๆ "ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ ไม่ต้องรีบนะคะ หนูขอโทษที่มารบกวน"
ร่างสูงเพรียวโค้งศีรษะให้ชายวัยกลางคนตรงหน้า ก่อนคลี่ยิ้มเรียบร้อยแบบไม่เห็นฟัน "หนูชื่อ ซาแมนธา บรูค คุณพ่อเรียกหนูว่าแซมก็ได้ค่ะ หนูเป็นชาวสวนคนใหม่ของฟาร์มคุณลุงแพซตัน พอดีว่าคุณลุงแกฝากวาน ให้หนูเอาของขวัญวันปีใหม่ย้อนหลังมาให้คุณพ่อค่ะ" หยิบกล่องช็อกโกแลตโทสยื่นส่งให้
"ช็อกโกแลตโทส ถึงจะเป็นของหวาน แต่หนูหวังว่าคุณพ่อจะชอบนะคะ"
ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับรู้เมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวเสร็จ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ พ่อชื่อคาร์เตอร์ เป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี้เอง”
“แต่เดี๋ยว สักครู่นะ” บาทหลวงวางมือจากประตู เขาก้มหาผ้าขนหนูมาเช็ดมือเพื่อความสะอาด ก่อนจะยื่นมือไปรับของจากซาแมนธา เธอดูนอบน้อมอย่างที่ควรจะเป็น ต่างกับเด็กหลายคนที่เขาเคยเจอ นับว่าเป็นโชคดีของแพชตัน ที่ได้คนตั้งใจมาทำงานแบบนี้
ช็อกโกแลตโทส ? ชายวัยกลางคนยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน “ไม่ว่าจะให้อะไรมา พ่อก็ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจนะลูก ยังไงก็ขอบคุณใจหรับของขวัญ แล้วก็ที่เป็นธุระของแพชตันให้ด้วยนะครับ”
|
|
S A M
New Farmer
Posts: 648
|
Post by S A M on Aug 7, 2017 20:54:52 GMT 7
ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับรู้เมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวเสร็จ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ พ่อชื่อคาร์เตอร์ เป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี้เอง”
“แต่เดี๋ยว สักครู่นะ” บาทหลวงวางมือจากประตู เขาก้มหาผ้าขนหนูมาเช็ดมือเพื่อความสะอาด ก่อนจะยื่นมือไปรับของจากซาแมนธา เธอดูนอบน้อมอย่างที่ควรจะเป็น ต่างกับเด็กหลายคนที่เขาเคยเจอ นับว่าเป็นโชคดีของแพชตัน ที่ได้คนตั้งใจมาทำงานแบบนี้
ช็อกโกแลตโทส ? ชายวัยกลางคนยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน “ไม่ว่าจะให้อะไรมา พ่อก็ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจนะลูก ยังไงก็ขอบใจสำหรับของขวัญ แล้วก็ที่เป็นธุระของแพชตันให้ด้วยนะครับ”
"แค่นี้เล็กน้อยค่าคุณพ่อ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอบคุณอะไรเลย" เธอยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด "ถ้ายังไงตอนนี้หนูขอตัวก่อนนะคะ ต้องเอาของไปให้อีกสองคนสุดท้าย"
ซาแมนธายกตะกร้าให้อีกฝ่ายดูเล็กน้อยเป็นหลักฐาน ก่อนจะโค้งศีรษะเป็นเชิงลา "พระเจ้าอวยพรค่ะคุณพ่อ"
|
|
|
Post by Father on Aug 7, 2017 21:08:06 GMT 7
“อ้อ” พยักหน้าหงึกหงัก เข้าใจแล้วว่าเด็กหนุ่มตั้งใจมาหาเขา ขณะเดียวกับก้มมองตะกร้าในมือของอีกฝ่าย คงจะเป็นของขวัญที่แพชตันไม่มีเวลาเอามาให้ด้วยตัวเอง และคงจะดี หากคนสวนใหม่ได้ผูกมิตรไปในตัว พร้อมกับธุระของตนลุล่วง
“ไม่เป็นไรครับ” เขากล่าว “หยอดน้ำมันเครื่องเดี๋ยวเดียวมันก็ใช้ได้แล้วล่ะ แค่บางทีเอาใจยากเฉยๆ” บาทหลวงว่าติดตลกนิดหน่อย
“อีกอย่าง ให้แขกมาช่วยงานตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็คงกะไรอยู่” ชายวัยกลางคนให้เหตุผลพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
"จริงๆไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ แค่ซ่อมประตูเอง แต่ถ้าพ่อว่าอย่างนั้น...ไว้โอกาสหน้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะครับ" อีกฝ่ายว่ายังไงก็ว่าตามกันล่ะนะ พ่อซ่อมประตู ใช้พลังงานเยอะ ให้ 'เสต็กเนื้อวัว' คงจะดี คิดได้อย่างนั้นเขาก็หยิบกล่องอาหารนั้นยื่นให้อีกฝ่ายไปพร้อมกับส่งยิ้มบางให้ "นี่ของขวัญจากคุณลุงครับ"
“ครับ ถ้าลูกว่าอย่างนั้น หากครั้งหน้ามีอะไรพ่ออาจจะเรียกก็ได้นะ” บาทหลวงตอบรับ วางมือจากบานประตูใหญ่ เขาก้มหยิบมือขนหนูมาเช็ดมือเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปรับของจากมอร์เฟียส
สเต็กเนื้อวัวอย่างนั้นหรือ ? ชายวัยกลางคนโคลงหัวนิดหน่อย
“ลำบากลูกไหม สำหรับการเป็นธุระให้แพชตันแบบนี้ แต่ถึงยังไงก็ขอบใจสำหรับของขวัญด้วยนะครับ”
|
|
|
Post by Father on Aug 7, 2017 21:09:52 GMT 7
ชายวัยกลางคนวางขวดน้ำยาหล่อลื่นที่พึ่งหยอดไปยังบริเวณบานพับ เขาละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงเรียก ทำให้รู้ว่าบริเวณที่ยืนอยู่นี้ไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว
บาทหลวงหันไปทางต้นตอ ก่อนจะพบกับเด็กหนุ่มหน้าตาไม่ค่อยคุ้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่ามาจากไหน น่าจะเป็นหนึ่งในคนสวนใหม่ของแพชตัน เขาสังเกตจากตะกร้าที่อีกฝ่ายนำมาด้วย หมอนั่นก็มักจะมีอะไร วานให้คนอื่นทำแทนตลอด การผูกมิตรไปในตัว กับธุระของตนเสร็จไปพร้อมกันคงจะเป็นเรื่องดี
“ถ้าเปรียบกับประตูให้เป็นเด็ก บางทีพ่อว่าเขาก็เอาใจยากเหมือนกันนะ” คำพูดทีเล่นทีจริงถูกเปล่งออกไป บาทหลวงส่ายหัวเล็กน้อยสำหรับความช่วยเหลือ “ไม่เป็นอะไรหรอกลูก แค่นี้สบายมาก แต่ว่า” เขาเว้นช่วงก่อนจะกล่าวต่อ “ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้คงต้องรอก่อนนะครับ”
ถ้าจะบอกว่าไม่เข้าใจประโยคนั่นเลยก็ไม่ผิดซะทีเดียว งานตีใจความไม่ใช่เรื่องถนัดนัก แต่ที่เข้าใจแน่ๆ คืออีกฝ่ายปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือจากเขา ซึ่ง...ก็ไม่เป็นไร
“ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้คงต้องรอก่อนนะครับ” "เปล่า" อลันปฏิเสธประโยคนั้นเสียงเบา เบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แล้วเปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนคำถาม
"ผมมาหาคุณพ่อคาร์เตอร์ครับ" คงเป็นคุณสินะ ประโยคท้ายถูกเก็บไว้ในลำคอ "คุณแพซตันวานให้ผม...เอาของขวัญปีใหม่มามอบให้คุณพ่อ" อลันกระแอม ลืมไปว่าตัวเองลืมแนะนำตัว "ผมชื่ออลัน อลัน ฮิลส์ คนงานที่เพิ่งสมัครมาช่วยทำฟาร์มคุณแพซตัน"
เขาเหลือกล่องอาหารในมือเพียงแค่ 3 กล่อง ขมวดคิ้วก่อนจะเงยหน้าถาม "คุณพ่อชอบเลขไหนเหรอครับ? ระหว่าง1-2 และ3" บาทหลวงพยักหน้า ในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด เขาได้ยินในสิ่งที่อีกคนอยากให้ได้ยิน ก่อนจะแนะนำตัวเพื่อเป็นการผูกมิตรกับอีกฝ่ายบ้าง “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ พ่อชื่อคาร์เตอร์ เป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี้เอง เป็นโชคดีของแพชตันนะเนี่ย ที่ได้คนยังหนุ่มยังแน่นช่วยงานที่ฟาร์ม”
ขณะเดียวกันก็ก้มหนน้ามองกล่องอาหารในมือของอลัน ชายหนุ่มถามว่าเขาชอบเลขอะไรระหว่าง หนึ่ง สอง และสาม บาทหลวงเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้อีกฝ่าย
“ถ้างั้น.. ลองทายดูไหมครับ ว่าพ่อชอบเลขอะไร ระหว่าง หนึ่ง สอง สาม”
|
|
|
Post by morpheus on Aug 7, 2017 21:22:55 GMT 7
"จริงๆไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ แค่ซ่อมประตูเอง แต่ถ้าพ่อว่าอย่างนั้น...ไว้โอกาสหน้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะครับ" อีกฝ่ายว่ายังไงก็ว่าตามกันล่ะนะ พ่อซ่อมประตู ใช้พลังงานเยอะ ให้ 'เสต็กเนื้อวัว' คงจะดี คิดได้อย่างนั้นเขาก็หยิบกล่องอาหารนั้นยื่นให้อีกฝ่ายไปพร้อมกับส่งยิ้มบางให้ "นี่ของขวัญจากคุณลุงครับ"
“ครับ ถ้าลูกว่าอย่างนั้น หากครั้งหน้ามีอะไรพ่ออาจจะเรียกก็ได้นะ” บาทหลวงตอบรับ วางมือจากบานประตูใหญ่ เขาก้มหยิบมือขนหนูมาเช็ดมือเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปรับของจากมอร์เฟียส
สเต็กเนื้อวัวอย่างนั้นหรือ ? ชายวัยกลางคนโคลงหัวนิดหน่อย
“ลำบากลูกไหม สำหรับการเป็นธุระให้แพชตันแบบนี้ แต่ถึงยังไงก็ขอบใจสำหรับของขวัญด้วยนะครับ”
"เรื่องแค่นี้ไม่ลำบากหรอกครับ ถ้ายังไง...ผมขอตัวเอาของไปให้คนที่เหลือก่อนนะครับ สองคนสุดท้ายแล้ว ไว้วันอาทิตย์จะมามิสซานะครับพ่อ" พูดถึงตรงนี้เขาก็มองไปที่ประตูบานใหญ่ของโบสถ์ "หวังว่าคงซ่อมเสร็จแล้วนะครับ" ชายหนุ่มพูดติดตลกก่อนจะขอตัวออกไปส่งของขวัญให้คนอื่นต่อ
|
|
|
Post by Father on Aug 7, 2017 21:23:20 GMT 7
ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับรู้เมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวเสร็จ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ พ่อชื่อคาร์เตอร์ เป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี้เอง”
“แต่เดี๋ยว สักครู่นะ” บาทหลวงวางมือจากประตู เขาก้มหาผ้าขนหนูมาเช็ดมือเพื่อความสะอาด ก่อนจะยื่นมือไปรับของจากซาแมนธา เธอดูนอบน้อมอย่างที่ควรจะเป็น ต่างกับเด็กหลายคนที่เขาเคยเจอ นับว่าเป็นโชคดีของแพชตัน ที่ได้คนตั้งใจมาทำงานแบบนี้
ช็อกโกแลตโทส ? ชายวัยกลางคนยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน “ไม่ว่าจะให้อะไรมา พ่อก็ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจนะลูก ยังไงก็ขอบใจสำหรับของขวัญ แล้วก็ที่เป็นธุระของแพชตันให้ด้วยนะครับ”
"แค่นี้เล็กน้อยค่าคุณพ่อ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอบคุณอะไรเลย" เธอยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด "ถ้ายังไงตอนนี้หนูขอตัวก่อนนะคะ ต้องเอาของไปให้อีกสองคนสุดท้าย"
ซาแมนธายกตะกร้าให้อีกฝ่ายดูเล็กน้อยเป็นหลักฐาน ก่อนจะโค้งศีรษะเป็นเชิงลา "พระเจ้าอวยพรค่ะคุณพ่อ"
เขาก้มศีรษะให้ซาแมนธาเช่นกัน “ไปดีมาดีนะลูก ถ้ามีเรื่องอะไร หรือต้องการพักผ่อนทางใจเมื่อไหร่ พ่อกับบ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับนะ”
บาทหลวงมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะอวยพรให้เด็กสาวโชคดี “ขอพระเจ้าอวยพรครับ”
LOVE POINT Carter to Samantha : +4 LP (ยังไม่รวมคะแนนของขวัญ)
|
|
Alan
New Farmer
Posts: 482
|
Post by Alan on Aug 7, 2017 21:25:02 GMT 7
ถ้าจะบอกว่าไม่เข้าใจประโยคนั่นเลยก็ไม่ผิดซะทีเดียว งานตีใจความไม่ใช่เรื่องถนัดนัก แต่ที่เข้าใจแน่ๆ คืออีกฝ่ายปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือจากเขา ซึ่ง...ก็ไม่เป็นไร
“ถ้าจะเข้าไปในโบสถ์ตอนนี้คงต้องรอก่อนนะครับ” "เปล่า" อลันปฏิเสธประโยคนั้นเสียงเบา เบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แล้วเปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนคำถาม
"ผมมาหาคุณพ่อคาร์เตอร์ครับ" คงเป็นคุณสินะ ประโยคท้ายถูกเก็บไว้ในลำคอ "คุณแพซตันวานให้ผม...เอาของขวัญปีใหม่มามอบให้คุณพ่อ" อลันกระแอม ลืมไปว่าตัวเองลืมแนะนำตัว "ผมชื่ออลัน อลัน ฮิลส์ คนงานที่เพิ่งสมัครมาช่วยทำฟาร์มคุณแพซตัน"
เขาเหลือกล่องอาหารในมือเพียงแค่ 3 กล่อง ขมวดคิ้วก่อนจะเงยหน้าถาม "คุณพ่อชอบเลขไหนเหรอครับ? ระหว่าง1-2 และ3" บาทหลวงพยักหน้า ในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด เขาได้ยินในสิ่งที่อีกคนอยากให้ได้ยิน ก่อนจะแนะนำตัวเพื่อเป็นการผูกมิตรกับอีกฝ่ายบ้าง “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะครับ พ่อชื่อคาร์เตอร์ เป็นบาทหลวงประจำอยู่ที่โบสถ์นี้เอง เป็นโชคดีของแพชตันนะเนี่ย ที่ได้คนยังหนุ่มยังแน่นช่วยงานที่ฟาร์ม”
ขณะเดียวกันก็ก้มหนน้ามองกล่องอาหารในมือของอลัน ชายหนุ่มถามว่าเขาชอบเลขอะไรระหว่าง หนึ่ง สอง และสาม บาทหลวงเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้อีกฝ่าย
“ถ้างั้น.. ลองทายดูไหมครับ ว่าพ่อชอบเลขอะไร ระหว่าง หนึ่ง สอง สาม”
อลันถึงกับนิ่งเมื่อถูกย้อนด้วยคำถาม แล้วก็หลุดหัวเราะออกมา เอาเข้าจริงเขาเริ่มหมดปัญญาจะเดาว่าคนตรงหน้าชอบกินอะไร เพราะทั้ง พายฟักทองม ข้าวเหนียวมะม่วง หรือจะเป็นช็อคโกแล็ตโทส ก็ดูไม่เข้ากันกับกลินยาสูบที่ลอยออกจากตัวบาทหลวงคนนี้สักนิด ถ้าเป็นกาแฟ หรือมวนยารสแรงๆ สักกล่องดูจะเข้าเค้ากว่า "เอาเถอะครับ เพราะบางทีคุณพ่ออาจจะชอบเลข 7 หรือ 10ก็ได้ ผมไม่กล้าเดาหรอก" เลยหยิบกล่อง 1 ใน 3 ยื่นให้ "สวัสดีปีใหม่ครับ หวังว่าพ่อจะชอบข้าวเหนียวมะม่วงนะ"
|
|