|
Post by Huckleberry Farm on Jul 31, 2017 17:34:33 GMT 7
ทุ่งดอกทานตะวันรั้วล้อมรอบทุ่งทานตะวันแสดงอาณาเขตความเป็นเจ้าของ ป้ายไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แต่เด่นสะดุดตาถูกติดตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า ข้อความที่สลักลงบนแผ่นไม้ ถูกทาสีขาวทับไปอีกชั้นดูลอกหลุดลุ่ยไปบางส่วน อ่านได้ใจความว่า "ห้ามเด็ดดอกทานตะวันโดยไม่ได้รับอนุญาต"NPC | DATE |
| WED SAT (AFTER 18:00 น.) | | WED |
|
|
|
Post by Yu Jiro on Aug 16, 2017 12:57:09 GMT 7
เหมือนจะกลายเป็นกิจวัตรประจําวันไปเสียแล้ว ที่เมื่อยูทำงานในฟาร์มของเขาเสร็จแล้ว จะต้อง ออกเดินสำรวจในเมืองแห่งนี่ที่ไหนสักแห่งไปเรื่อย ตามแต่ว่าวันนี่เขาจะเดินไปหยุดที่ตรงไหน
ซึ้งสถานที่ที่เขาเดินมาหยุดในวันนี่ก็คือ ทุ่งดอกทานตะวันแห่งนี่เอง แสงแดด ยามเทียงๆบ่ายๆ ที่ดูเหมือนว่าวันนี่จะไม่แรง จนเกินไปแก่การเดินเล่นเพื่อดูดอกทานตะวันเหล่านี่
สำหรับยูแล้วทุ่งดอกไม้ตรงหน้านี่นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ สำหรับเขาเป็นอย่างมาก เพราะว่านอกจากการเรียนอย่างหนักหน่วง แล้วเขาก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก
ระหว่างที่เข้าเดินดูเหล่าดอกทานตะวันไปเรื่อยๆนั้น สายตาของยูก็ไปสะดุดเข้ากับชายหนุ่มในชุดสีดำ ที่น่าจะกำลังชมดอกทานตะวันเช่นเดียวกับเขา....ละมั้ง แน่นอนเขาไม่ลังเลที่ตัดสินเดินเข้าไปทักทายชายคนนั้นในทันที่
"สวัสดียามเทียงๆบ่ายๆครับ" ยูกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตรพร้อมกับยิ้มให้
"ทุ่งดอกทานตะวันนี่สวยจริงนะ ไม่เคยเห็นอะไร แบบนี่มาก่อนเลย" เขายังพูดต่อพร้อมกับมองไปรอบๆ
"อ้อผม ยู นะครับเป็นชาวสวนที่พึงมาใหม่เร็วๆนี่เลย ยินดีที่ได้เจอ" แล้วเขาก็ไม่ลืมที่จะแนะนำตัวเองอีกเช่นเคย
|
|
|
Post by roseblacker on Aug 16, 2017 18:16:35 GMT 7
โรเซ่มาเดินเล่นที่ทุ่งดอกทานตะวันเพื่อคลายความเครียด การที่เธอมาอยู่ฟาร์มในตอนนั้นทำให้เธอได้พบอะไรหลายๆอย่างมากมาย ทั้งเพื่อนใหม่แสนดี ชีวิตใหม่ เดี๋ยวคงต้องไปหาคุณลุงแพซตันบ้างแล้วล่ะ.. เธอใส่ชุดสีขาวลายกระโหลกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ พร้อมกับกระเป๋าใส่แซนวิชชีสสีดำไว้ข้างขวา รองเท้าผ้าใบสีขาว มัดผมหางม้าไว้ บอกเลยว่ามาเดินเล่น... ร่างบางของโรเซ่เดินมาเล่นๆแถวทานตะวัน สายตาเหลือบไปเห็นสาวน้อยคุ้นตา ผมสีส้มแอปริคอทที่อยู่ในร้านเสริมสวยของเจย์น่า ลิเดียหรอ..? สาวหางม้าสีไข่มุกมองคนที่ชื่อ ลิเดีย เธอขยับแว่นเล็กน้อยมองเธอตรงหน้าว่าเป็นลิเดียรึเปล่า ปรากฏว่าใช่ เธอเลยไปถามไถ่ "สวัสดีจ้า ลิเดีย บังเอิญจังนะ..." เธอพูด "มาทำอะไรที่นี่หรอ จะค่ำแล้วนะ"
|
|
|
Post by thenash on Aug 17, 2017 20:00:07 GMT 7
เหมือนจะกลายเป็นกิจวัตรประจําวันไปเสียแล้ว ที่เมื่อยูทำงานในฟาร์มของเขาเสร็จแล้ว จะต้อง ออกเดินสำรวจในเมืองแห่งนี่ที่ไหนสักแห่งไปเรื่อย ตามแต่ว่าวันนี่เขาจะเดินไปหยุดที่ตรงไหน
ซึ้งสถานที่ที่เขาเดินมาหยุดในวันนี่ก็คือ ทุ่งดอกทานตะวันแห่งนี่เอง แสงแดด ยามเทียงๆบ่ายๆ ที่ดูเหมือนว่าวันนี่จะไม่แรง จนเกินไปแก่การเดินเล่นเพื่อดูดอกทานตะวันเหล่านี่
สำหรับยูแล้วทุ่งดอกไม้ตรงหน้านี่นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ สำหรับเขาเป็นอย่างมาก เพราะว่านอกจากการเรียนอย่างหนักหน่วง แล้วเขาก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก
ระหว่างที่เข้าเดินดูเหล่าดอกทานตะวันไปเรื่อยๆนั้น สายตาของยูก็ไปสะดุดเข้ากับชายหนุ่มในชุดสีดำ ที่น่าจะกำลังชมดอกทานตะวันเช่นเดียวกับเขา....ละมั้ง แน่นอนเขาไม่ลังเลที่ตัดสินเดินเข้าไปทักทายชายคนนั้นในทันที่
"สวัสดียามเทียงๆบ่ายๆครับ" ยูกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตรพร้อมกับยิ้มให้
"ทุ่งดอกทานตะวันนี่สวยจริงนะ ไม่เคยเห็นอะไร แบบนี่มาก่อนเลย" เขายังพูดต่อพร้อมกับมองไปรอบๆ
"อ้อผม ยู นะครับเป็นชาวสวนที่พึงมาใหม่เร็วๆนี่เลย ยินดีที่ได้เจอ" แล้วเขาก็ไม่ลืมที่จะแนะนำตัวเองอีกเช่นเคย
ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองสุดลูกหูลูกตา บนตำแหน่งเนินที่สูงกว่าจุดอื่น มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาดอกทานตะวันบริเวณนั้น สายลมเบาบางพัดโชยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของทานตะวันให้ฟุ้งไปทั่ว ร่างสูงโปร่งในชุดสีดำแขนสั้นสำหรับฤดูร้อนนอนหนุนตักเด็กสาวที่อายุไล่เลี่ยกัน เปลือกตาปิดสนิท แต่มือโบกไปมาตามจังหวะเพลงที่ออกมาจากริมฝีปากบางของคนด้านบน น้ำเสียงไพเราะหวานหูร้องคลอให้เขาฟังไปเรื่อยๆ
Twinkle, twinkle, little star How I wonder what you are Up above the world so high Like a diamond in the sky Twinkle, twinkle little star How I wonder what you are . . .
แต่ความสุนทรีย์ของพวกเขาต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงทักคุ้นๆหูอยู่นิดหน่อย ลิเดียหยุดร้องเพลงทันที แนชค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น เอนหน้าหันมองแขกไม่ได้รับเชิญ คิ้วเลิกขึ้นสูง นัยน์ตาคู่คมมองอีกฝ่ายแล้วส่งยิ้มทักทายไปให้ เขาจำได้ว่าเคยเจออีกฝ่ายที่บาร์ในโรงแรมนายแม่ คนสวนคนใหม่ที่มาช้ากว่าคนอื่นนี่เอง...
"สวัสดียามเทียงๆบ่ายๆครับ" "หวัดดีครับ"
เขาดันตัวลุกขึ้นจากตักนุ่ม เปลี่ยนท่ามานั่งพิงต้นไม้แทน
"ทุ่งดอกทานตะวันนี่สวยจริงนะ ไม่เคยเห็นอะไร แบบนี่มาก่อนเลย"
"สีเหลืองสุดลูกหูลูกตาไหมล่ะครับ แต่ห้ามเด็ดนะ" เขาพูดกลั้วหัวเราะ "...ถึงผมเองจะอยากเด็ดให้หมดทุ่งหลายครั้งแล้วก็เถอะ" มุมปากกระตุกขึ้นแทบมองไม่เห็น ก่อนถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้างดังเดิม
"อ้อผม ยู นะครับเป็นชาวสวนที่พึงมาใหม่เร็วๆนี่เลย ยินดีที่ได้เจอ"
แนชโคลงหัวหน่อยๆ "ผมจำคุณได้ คุณคือคนที่เข้าบาร์ แล้วไม่รู้จะหันไปคุยกับใครคนนั้นใช่ไหม" เขาอมยิ้มขี้เล่น "แล้วเป็นไงบ้างครับ วันนี้มาเดินเล่นเหรอ"
|
|
|
Post by lydia on Aug 17, 2017 22:14:54 GMT 7
โรเซ่มาเดินเล่นที่ทุ่งดอกทานตะวันเพื่อคลายความเครียด การที่เธอมาอยู่ฟาร์มในตอนนั้นทำให้เธอได้พบอะไรหลายๆอย่างมากมาย ทั้งเพื่อนใหม่แสนดี ชีวิตใหม่ เดี๋ยวคงต้องไปหาคุณลุงแพซตันบ้างแล้วล่ะ.. เธอใส่ชุดสีขาวลายกระโหลกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ พร้อมกับกระเป๋าใส่แซนวิชชีสสีดำไว้ข้างขวา รองเท้าผ้าใบสีขาว มัดผมหางม้าไว้ บอกเลยว่ามาเดินเล่น... ร่างบางของโรเซ่เดินมาเล่นๆแถวทานตะวัน สายตาเหลือบไปเห็นสาวน้อยคุ้นตา ผมสีส้มแอปริคอทที่อยู่ในร้านเสริมสวยของเจย์น่า ลิเดียหรอ..? สาวหางม้าสีไข่มุกมองคนที่ชื่อ ลิเดีย เธอขยับแว่นเล็กน้อยมองเธอตรงหน้าว่าเป็นลิเดียรึเปล่า ปรากฏว่าใช่ เธอเลยไปถามไถ่ "สวัสดีจ้า ลิเดีย บังเอิญจังนะ..." เธอพูด "มาทำอะไรที่นี่หรอ จะค่ำแล้วนะ" ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองสุดลูกหูลูกตา บนตำแหน่งเนินที่สูงกว่าจุดอื่น มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาดอกทานตะวันบริเวณนั้น สายลมเบาบางพัดโชยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของทานตะวันให้ฟุ้งไปทั่ว
ร่างเพรียวบางในชุดเอี๊ยมกระโปรงยีนส์ยาวเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยทับเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นั่งพับเพียบ บนหน้าตักของเธอมีเด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันใช้ศีรษะพิงพักอยู่ เปลือกตาของเขาปิดสนิท แต่มือโบกไปมาตามจังหวะเพลงที่ออกมาจากริมฝีปากบางของคนด้านบน น้ำเสียงไพเราะหวานหูร้องคลอให้เขาฟังไปเรื่อยๆ
Twinkle, twinkle, little star How I wonder what you are Up above the world so high Like a diamond in the sky Twinkle, twinkle little star How I wonder what you are . . .
แต่ความสุนทรีย์ของพวกเขาต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงทักคุ้นๆหูอยู่นิดหน่อย ลิเดียหยุดร้องเพลงทันที ใบหน้าหันมองหญิงสาวร่างเล็กผู้มาใหม่
"สวัสดีจ้า ลิเดีย บังเอิญจังนะ..." "สวัสดี..." ลิเดียขานตอบเบาๆ ขณะที่แนชลุกขึ้นจากตักไปนั่งพิงต้นไม้ด้านหลังแทน "หวัดดี โรเซ่ใช่ไหมล่ะนั่น" ท้ายประโยคหันหน้าไปถามลิเดีย ซึ่งเจ้าของเรือนผมสีส้มก็ทำเพียงพยักหน้าเบาๆ
"มาทำอะไรที่นี่หรอ จะค่ำแล้วนะ" "ลิเดียมานั่งเล่นกับแนช แล้วคุณล่ะ...?" เธอเอ่ยถามโดยไม่ได้สบตา
|
|
|
Post by roseblacker on Aug 18, 2017 6:51:07 GMT 7
โรเซ่มาเดินเล่นที่ทุ่งดอกทานตะวันเพื่อคลายความเครียด การที่เธอมาอยู่ฟาร์มในตอนนั้นทำให้เธอได้พบอะไรหลายๆอย่างมากมาย ทั้งเพื่อนใหม่แสนดี ชีวิตใหม่ เดี๋ยวคงต้องไปหาคุณลุงแพซตันบ้างแล้วล่ะ.. เธอใส่ชุดสีขาวลายกระโหลกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ พร้อมกับกระเป๋าใส่แซนวิชชีสสีดำไว้ข้างขวา รองเท้าผ้าใบสีขาว มัดผมหางม้าไว้ บอกเลยว่ามาเดินเล่น... ร่างบางของโรเซ่เดินมาเล่นๆแถวทานตะวัน สายตาเหลือบไปเห็นสาวน้อยคุ้นตา ผมสีส้มแอปริคอทที่อยู่ในร้านเสริมสวยของเจย์น่า ลิเดียหรอ..? สาวหางม้าสีไข่มุกมองคนที่ชื่อ ลิเดีย เธอขยับแว่นเล็กน้อยมองเธอตรงหน้าว่าเป็นลิเดียรึเปล่า ปรากฏว่าใช่ เธอเลยไปถามไถ่ "สวัสดีจ้า ลิเดีย บังเอิญจังนะ..." เธอพูด "มาทำอะไรที่นี่หรอ จะค่ำแล้วนะ" ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองสุดลูกหูลูกตา บนตำแหน่งเนินที่สูงกว่าจุดอื่น มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาดอกทานตะวันบริเวณนั้น สายลมเบาบางพัดโชยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของทานตะวันให้ฟุ้งไปทั่ว
ร่างเพรียวบางในชุดเอี๊ยมกระโปรงยีนส์ยาวเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยทับเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นั่งพับเพียบ บนหน้าตักของเธอมีเด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันใช้ศีรษะพิงพักอยู่ เปลือกตาของเขาปิดสนิท แต่มือโบกไปมาตามจังหวะเพลงที่ออกมาจากริมฝีปากบางของคนด้านบน น้ำเสียงไพเราะหวานหูร้องคลอให้เขาฟังไปเรื่อยๆ
Twinkle, twinkle, little star How I wonder what you are Up above the world so high Like a diamond in the sky Twinkle, twinkle little star How I wonder what you are . . .
แต่ความสุนทรีย์ของพวกเขาต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงทักคุ้นๆหูอยู่นิดหน่อย ลิเดียหยุดร้องเพลงทันที ใบหน้าหันมองหญิงสาวร่างเล็กผู้มาใหม่
"สวัสดีจ้า ลิเดีย บังเอิญจังนะ..." "สวัสดี..." ลิเดียขานตอบเบาๆ ขณะที่แนชลุกขึ้นจากตักไปนั่งพิงต้นไม้ด้านหลังแทน "หวัดดี โรเซ่ใช่ไหมล่ะนั่น" ท้ายประโยคหันหน้าไปถามลิเดีย ซึ่งเจ้าของเรือนผมสีส้มก็ทำเพียงพยักหน้าเบาๆ
"มาทำอะไรที่นี่หรอ จะค่ำแล้วนะ" "ลิเดียมานั่งเล่นกับแนช แล้วคุณล่ะ...?" เธอเอ่ยถามโดยไม่ได้สบตา
"สวัสดี..." "หวัดดี โรเซ่ใช่ไหมล่ะนั่น" "สวัสดีจ้าแนช ที่ร้านเป็นไงบ้างล่ะ" เธอถามเรื่องถามราวเป็นการทักทายกัน โรสยิ้มเล็กน้อย "ลิเดียมานั่งเล่นกับแนช แล้วคุณล่ะ...?" นั่งเล่น..? ฉันมาผิดที่ผิดเวลารึเปล่าล่ะ เธอเหงื่อตกในใจ ก่อนจะตอบไป "มาเดินเล่นน่ะ ว่าแต่ทุ่งทานตะวันนี่เป็นของใครหรอ?" เธอถาม ก็สงสัยจริงๆนิ "เพลงที่เธอร้องน่ะเพราะดีนะ"
|
|
|
Post by Yu Jiro on Aug 18, 2017 12:06:45 GMT 7
ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองสุดลูกหูลูกตา บนตำแหน่งเนินที่สูงกว่าจุดอื่น มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาดอกทานตะวันบริเวณนั้น สายลมเบาบางพัดโชยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของทานตะวันให้ฟุ้งไปทั่ว ร่างสูงโปร่งในชุดสีดำแขนสั้นสำหรับฤดูร้อนนอนหนุนตักเด็กสาวที่อายุไล่เลี่ยกัน เปลือกตาปิดสนิท แต่มือโบกไปมาตามจังหวะเพลงที่ออกมาจากริมฝีปากบางของคนด้านบน น้ำเสียงไพเราะหวานหูร้องคลอให้เขาฟังไปเรื่อยๆ
Twinkle, twinkle, little star How I wonder what you are Up above the world so high Like a diamond in the sky Twinkle, twinkle little star How I wonder what you are . . .
แต่ความสุนทรีย์ของพวกเขาต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงทักคุ้นๆหูอยู่นิดหน่อย ลิเดียหยุดร้องเพลงทันที แนชค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น เอนหน้าหันมองแขกไม่ได้รับเชิญ คิ้วเลิกขึ้นสูง นัยน์ตาคู่คมมองอีกฝ่ายแล้วส่งยิ้มทักทายไปให้ เขาจำได้ว่าเคยเจออีกฝ่ายที่บาร์ในโรงแรมนายแม่ คนสวนคนใหม่ที่มาช้ากว่าคนอื่นนี่เอง...
"สวัสดียามเทียงๆบ่ายๆครับ" "หวัดดีครับ"
เขาดันตัวลุกขึ้นจากตักนุ่ม เปลี่ยนท่ามานั่งพิงต้นไม้แทน
"ทุ่งดอกทานตะวันนี่สวยจริงนะ ไม่เคยเห็นอะไร แบบนี่มาก่อนเลย"
"สีเหลืองสุดลูกหูลูกตาไหมล่ะครับ แต่ห้ามเด็ดนะ" เขาพูดกลั้วหัวเราะ "...ถึงผมเองจะอยากเด็ดให้หมดทุ่งหลายครั้งแล้วก็เถอะ" มุมปากกระตุกขึ้นแทบมองไม่เห็น ก่อนถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้างดังเดิม
"อ้อผม ยู นะครับเป็นชาวสวนที่พึงมาใหม่เร็วๆนี่เลย ยินดีที่ได้เจอ"
แนชโคลงหัวหน่อยๆ "ผมจำคุณได้ คุณคือคนที่เข้าบาร์ แล้วไม่รู้จะหันไปคุยกับใครคนนั้นใช่ไหม" เขาอมยิ้มขี้เล่น "แล้วเป็นไงบ้างครับ วันนี้มาเดินเล่นเหรอ"
"เหอะๆ จำได้ด้วยอย่างงั้นหรอ" ยูหัวเราะแห้งๆ ตอบรับแล้วลูบท้ายทอยตัวเองเล็กน้อย อย่างเขินอาย ที่ถูกจำได้ในสภาพนั้น
"ใช้ มันก็อะไรทำนองนั้นละ เดินเล่นพร้อมกับสำรวจหมู่บ้านไปในตัว" เขาพูดต่อพร้อมกับมองไปรอบๆ
"ถ้าไม่ว่าอะไร ผมจะขอนั้งด้ว----อะ....." แล้วคำพูดของเขาก็สะดุดไป เพราะว่าเขานั้น พึงสังเกตุสถานการณ์ได้ว่า ตัวเองนั้นอาจะมาผิดจังหวะสุดๆ
"เอ้.....อ่า.....เออ.....พวกเธอ 2 คน คงไม่...... อืม....... ผมมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า....." ท่าทางเงอะๆงะๆของคนกึ่งยืนกึ่งนั่งพร้อมกับนิ้วทั้ง2 ข้างที่กำลังชี้ไปมา แล้วเหงือตกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ทำท่าเหมือนจะเดินออกไป แต่ก็ยังเว้นจังหวะไว้ โดยแอบคิดในใจลึกๆว่า ฝ่ายตรงข้ามจะชวนให้เขานั่งต่อ
|
|
|
Post by roseblacker on Sept 2, 2017 19:35:23 GMT 7
โรเซ่เดินเที่ยวเตร็ดเตร่มาจนถึงทุ่งดอกทานตะวัน สาวน้อยผมสีไข่มุกในชุดลำลองของตัวเอง เธอชอบมาเดินเล่นแถวนี้เพราะมันเงียบสงบดี "แต่ก็กลัวผีนะ......." เธอพูดความคิดออกมา โรเซ่เป็นคนขวัญอ่อนมาก ถ้าเทียบกับหนังผีและหนังสือสยองขวัญ เธอชอบหนังสือมากกว่า ร่างบางเดินไปที่มุมที่มีแสงสว่างเล็กน้อย เธอกอดตัวเองด้วยความกลัว "มันจะเป็นแบบตอนนั้นรึเปล่านะ ที่นางเอกมานั่งตรงมุมสว่าง แล้วผีก็โผล่มายังข้างหลัง" เธอพูดด้วยความกลัว ใบหน้าของเธอขาวซีดเล็กน้อย ผู้คนไม่นิยมที่จะเดินออกมาข้างนอกตอนกลางคืน... โรเซ่เอามือปิดปากตัวเองเล็กน้อย เธอเห็นทานตะวัวพริ้วไหว บรรญากาศวังเวง อากาศเย็นกว่าที่คิดไว้ โดยเฉพาะผู้หญิง ผู้หญิงไม่ควรออกมาข้างนอกตอนกลางคืน.. ฟิ้ว~ ลมแรงขึ้นเล็กน้อย เธอขดตัวลงแล้วในขณะนั้นเอง เธอได้เหยียบใบไม้ของดอกทานตะวันที่ร่วงลงมาอย่างแรง แกร๊บ!! "แงงงง ผีมา!"
|
|
|
Post by thenash on Sept 4, 2017 0:39:11 GMT 7
โรเซ่เดินเที่ยวเตร็ดเตร่มาจนถึงทุ่งดอกทานตะวัน สาวน้อยผมสีไข่มุกในชุดลำลองของตัวเอง เธอชอบมาเดินเล่นแถวนี้เพราะมันเงียบสงบดี "แต่ก็กลัวผีนะ......." เธอพูดความคิดออกมา โรเซ่เป็นคนขวัญอ่อนมาก ถ้าเทียบกับหนังผีและหนังสือสยองขวัญ เธอชอบหนังสือมากกว่า ร่างบางเดินไปที่มุมที่มีแสงสว่างเล็กน้อย เธอกอดตัวเองด้วยความกลัว "มันจะเป็นแบบตอนนั้นรึเปล่านะ ที่นางเอกมานั่งตรงมุมสว่าง แล้วผีก็โผล่มายังข้างหลัง" เธอพูดด้วยความกลัว ใบหน้าของเธอขาวซีดเล็กน้อย ผู้คนไม่นิยมที่จะเดินออกมาข้างนอกตอนกลางคืน... โรเซ่เอามือปิดปากตัวเองเล็กน้อย เธอเห็นทานตะวัวพริ้วไหว บรรญากาศวังเวง อากาศเย็นกว่าที่คิดไว้ โดยเฉพาะผู้หญิง ผู้หญิงไม่ควรออกมาข้างนอกตอนกลางคืน.. ฟิ้ว~ ลมแรงขึ้นเล็กน้อย เธอขดตัวลงแล้วในขณะนั้นเอง เธอได้เหยียบใบไม้ของดอกทานตะวันที่ร่วงลงมาอย่างแรง แกร๊บ!! "แงงงง ผีมา!" ร่างสูงโปร่งนอนหนุนแขนตัวเองอยู่ใต้เนินต้นไม้ใหญ่รอบล้อมด้วยดอกทานตะวัน เปลือกตาปิดสนิท แต่เขาไม่ได้หลับจริงๆ ในมือมีดอกสีเหลืองสดแกว่งไปมาเล่นๆ พอเล่นจนช้ำก็เด็ดมาอีกหนึ่งดอก เมินป้ายปักด้านหน้าที่สั่งห้ามไปโดยสิ้นเชิง
"แต่ก็กลัวผีนะ......."
เพราะเป็นเวลากลางคืนที่ไร้ผู้คน และรอบด้านก็เงียบมากจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง ไม่แปลกที่แนชจะย่นคิ้ว รู้สึกคุ้นเจ้าของเสียงเป็นพิเศษ แต่มันค่อนข้างเบา ทำให้เขาไม่แน่ใจ
ใคร
ดันตัวลุกขึ้นนั่ง กระพริบตาหลายรอบเพื่อปรับให้ชินกับความมืด ก่อนหรี่ลงมองหาต้นเสียง
"มันจะเป็นแบบตอนนั้นรึเปล่านะ ที่นางเอกมานั่งตรงมุมสว่าง แล้วผีก็โผล่มายังข้างหลัง"
คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูง มองเห็นร่างตะคุ่มๆอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ เสียงเดิมที่แฝงด้วยความกลัวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น่าแปลกที่มันทำให้เขารู้สึกอยากหัวเราะแทน และเขาว่าเขารู้แล้วว่าใครมาเดินเล่นทุ่งทานตะวันดึกๆดื่นๆแบบนี้ ร่างสูงโปร่งค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นช้าๆ รอยยิ้มไม่น่าไว้ใจผุดขึ้นเมื่อเจ้าตัวคิดอะไรสนุกๆได้
เขาเดินย่องเข้าไปหาอีกฝ่าย ก้มหัวลงต่ำไม่ให้ใครเห็นตัวได้ พลางค่อยๆ ลัดเลาะผ่านกลุ่มดอกทานตะวันที่คุ้นเคยอย่างใจเย็นประหนึ่งนักย่องเบา ไปหยุดอยู่ด้านหลังร่างเล็กกว่าได้สำเร็จ หมายจะแตะไหล่หญิงสาวให้ตกใจเล่น แต่แผนยังไม่ทันได้ทำ กรรมก็มาเร็วเสียเหลือเกิน
แกร๊บ!! "แงงงง ผีมา!"
อีกฝ่ายร้องลั่นด้วยความขวัญเสีย เหมือนจะหันหลังเพื่อวิ่งหนี แต่มันก็เป็นจังหวะเดียวกับแนชที่กำลังยืดตัวขึ้นพอดี
โป๊กก!
หัวของทั้งคู่ชนกันจนเกิดเสียงตึงในหัว บอกคำเดียวว่าตึบเลย
เขาสะบัดศีรษะไล่อาการปวดหนึบๆ มือลูบบริเวณที่ชนกันปอยๆ หน้าหันมองคนตัวเล็ก อยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก เพราะมันเจ็บไม่น้อยเลย ขนาดเขาว่าตัวเองหัวแข็งแล้วยังรู้สึกมึนตึบ นับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียว
“เจ็บไหม” น้ำเสียงยังเกือบหลุดขำ ก็มันตลกมากจริงๆให้ทำไง
“ขอโทษนะครับบ ว่าจะแกล้งเล่นๆไม่คิดว่าจะพลิกล็อคมาอีหรอบนี้” บอกพลางยื่นมือไปวางแหมะอยู่บนกลุ่มผมสีไข่มุก แล้วโยกเบาๆคล้ายจะโอ๋ “และจะว่าไป… คนกลัวผีมาทำอะไรดึกๆดื่นๆในทุ่งดอกทานตะวันแบบนี้ล่ะหืม โรเซ่”
|
|
|
Post by roseblacker on Sept 4, 2017 11:08:36 GMT 7
โรเซ่เดินเที่ยวเตร็ดเตร่มาจนถึงทุ่งดอกทานตะวัน สาวน้อยผมสีไข่มุกในชุดลำลองของตัวเอง เธอชอบมาเดินเล่นแถวนี้เพราะมันเงียบสงบดี "แต่ก็กลัวผีนะ......." เธอพูดความคิดออกมา โรเซ่เป็นคนขวัญอ่อนมาก ถ้าเทียบกับหนังผีและหนังสือสยองขวัญ เธอชอบหนังสือมากกว่า ร่างบางเดินไปที่มุมที่มีแสงสว่างเล็กน้อย เธอกอดตัวเองด้วยความกลัว "มันจะเป็นแบบตอนนั้นรึเปล่านะ ที่นางเอกมานั่งตรงมุมสว่าง แล้วผีก็โผล่มายังข้างหลัง" เธอพูดด้วยความกลัว ใบหน้าของเธอขาวซีดเล็กน้อย ผู้คนไม่นิยมที่จะเดินออกมาข้างนอกตอนกลางคืน... โรเซ่เอามือปิดปากตัวเองเล็กน้อย เธอเห็นทานตะวัวพริ้วไหว บรรญากาศวังเวง อากาศเย็นกว่าที่คิดไว้ โดยเฉพาะผู้หญิง ผู้หญิงไม่ควรออกมาข้างนอกตอนกลางคืน.. ฟิ้ว~ ลมแรงขึ้นเล็กน้อย เธอขดตัวลงแล้วในขณะนั้นเอง เธอได้เหยียบใบไม้ของดอกทานตะวันที่ร่วงลงมาอย่างแรง แกร๊บ!! "แงงงง ผีมา!" ร่างสูงโปร่งนอนหนุนแขนตัวเองอยู่ใต้เนินต้นไม้ใหญ่รอบล้อมด้วยดอกทานตะวัน เปลือกตาปิดสนิท แต่เขาไม่ได้หลับจริงๆ ในมือมีดอกสีเหลืองสดแกว่งไปมาเล่นๆ พอเล่นจนช้ำก็เด็ดมาอีกหนึ่งดอก เมินป้ายปักด้านหน้าที่สั่งห้ามไปโดยสิ้นเชิง
"แต่ก็กลัวผีนะ......."
เพราะเป็นเวลากลางคืนที่ไร้ผู้คน และรอบด้านก็เงียบมากจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง ไม่แปลกที่แนชจะย่นคิ้ว รู้สึกคุ้นเจ้าของเสียงเป็นพิเศษ แต่มันค่อนข้างเบา ทำให้เขาไม่แน่ใจ
ใคร
ดันตัวลุกขึ้นนั่ง กระพริบตาหลายรอบเพื่อปรับให้ชินกับความมืด ก่อนหรี่ลงมองหาต้นเสียง
"มันจะเป็นแบบตอนนั้นรึเปล่านะ ที่นางเอกมานั่งตรงมุมสว่าง แล้วผีก็โผล่มายังข้างหลัง"
คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูง มองเห็นร่างตะคุ่มๆอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ เสียงเดิมที่แฝงด้วยความกลัวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น่าแปลกที่มันทำให้เขารู้สึกอยากหัวเราะแทน และเขาว่าเขารู้แล้วว่าใครมาเดินเล่นทุ่งทานตะวันดึกๆดื่นๆแบบนี้ ร่างสูงโปร่งค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นช้าๆ รอยยิ้มไม่น่าไว้ใจผุดขึ้นเมื่อเจ้าตัวคิดอะไรสนุกๆได้
เขาเดินย่องเข้าไปหาอีกฝ่าย ก้มหัวลงต่ำไม่ให้ใครเห็นตัวได้ พลางค่อยๆ ลัดเลาะผ่านกลุ่มดอกทานตะวันที่คุ้นเคยอย่างใจเย็นประหนึ่งนักย่องเบา ไปหยุดอยู่ด้านหลังร่างเล็กกว่าได้สำเร็จ หมายจะแตะไหล่หญิงสาวให้ตกใจเล่น แต่แผนยังไม่ทันได้ทำ กรรมก็มาเร็วเสียเหลือเกิน
แกร๊บ!! "แงงงง ผีมา!"
อีกฝ่ายร้องลั่นด้วยความขวัญเสีย เหมือนจะหันหลังเพื่อวิ่งหนี แต่มันก็เป็นจังหวะเดียวกับแนชที่กำลังยืดตัวขึ้นพอดี
โป๊กก!
หัวของทั้งคู่ชนกันจนเกิดเสียงตึงในหัว บอกคำเดียวว่าตึบเลย
เขาสะบัดศีรษะไล่อาการปวดหนึบๆ มือลูบบริเวณที่ชนกันปอยๆ หน้าหันมองคนตัวเล็ก อยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก เพราะมันเจ็บไม่น้อยเลย ขนาดเขาว่าตัวเองหัวแข็งแล้วยังรู้สึกมึนตึบ นับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียว
“เจ็บไหม” น้ำเสียงยังเกือบหลุดขำ ก็มันตลกมากจริงๆให้ทำไง
“ขอโทษนะครับบ ว่าจะแกล้งเล่นๆไม่คิดว่าจะพลิกล็อคมาอีหรอบนี้” บอกพลางยื่นมือไปวางแหมะอยู่บนกลุ่มผมสีไข่มุก แล้วโยกเบาๆคล้ายจะโอ๋ “และจะว่าไป… คนกลัวผีมาทำอะไรดึกๆดื่นๆในทุ่งดอกทานตะวันแบบนี้ล่ะหืม โรเซ่”
โป๊กก!! หัวทุยๆของโรเซ่ชนกับหัวของคนปริศนาที่อยู่ใกล้กันจนเกิดเสียง "โอยย " โรเซ่ร้องอย่างเจ็บปวด เธอเอามือกุมหัวเล็กน้อย ไม่มีเลือดใช่มะ.... สายตาของเธอเริ่มปรับตัวก่อนจะพบใครบางคนที่อยู่ใกล้เธอ เป็นคนที่เธอสนิทที่สุดในตอนนี้ "แนชหรอ..?" “เจ็บไหม” เสียงขี้เล่นของแนชพูดขึ้น "ก็เจ็บใช่เล่นนะ...โอย" โรเซ่ยิ้มทนกับความเจ็บปวด นั่นหัวหรือหินน่ะ...TT มือของเขาเข้าไปวางแหมะบนหัวของเธอ คล้ายกับปลอบโยน “ขอโทษนะครับบ ว่าจะแกล้งเล่นๆไม่คิดว่าจะพลิกล็อคมาอีหรอบนี้” แกล้งเล่นจนเจ็บตัวเลยนะ.... เธอคิดก่อนจะมองหน้าของแนช “และจะว่าไป… คนกลัวผีมาทำอะไรดึกๆดื่นๆในทุ่งดอกทานตะวันแบบนี้ล่ะหืม โรเซ่” "อ..ก็มาเดินเล่นน่ะ พอดีบ้านกำลังสร้างอยู่" เธอยิ้มเล็กน้อย "หมู่บ้านสงบดีเนอะ" ..... "ว่าแต่ หมู่บ้านนี้เคยมีปัญหาไหม?"
|
|
|
Post by thenash on Sept 4, 2017 20:01:54 GMT 7
โป๊กก!! หัวทุยๆของโรเซ่ชนกับหัวของคนปริศนาที่อยู่ใกล้กันจนเกิดเสียง "โอยย " โรเซ่ร้องอย่างเจ็บปวด เธอเอามือกุมหัวเล็กน้อย ไม่มีเลือดใช่มะ.... สายตาของเธอเริ่มปรับตัวก่อนจะพบใครบางคนที่อยู่ใกล้เธอ เป็นคนที่เธอสนิทที่สุดในตอนนี้ "แนชหรอ..?" “เจ็บไหม” เสียงขี้เล่นของแนชพูดขึ้น "ก็เจ็บใช่เล่นนะ...โอย" โรเซ่ยิ้มทนกับความเจ็บปวด นั่นหัวหรือหินน่ะ...TT มือของเขาเข้าไปวางแหมะบนหัวของเธอ คล้ายกับปลอบโยน “ขอโทษนะครับบ ว่าจะแกล้งเล่นๆไม่คิดว่าจะพลิกล็อคมาอีหรอบนี้” แกล้งเล่นจนเจ็บตัวเลยนะ.... เธอคิดก่อนจะมองหน้าของแนช “และจะว่าไป… คนกลัวผีมาทำอะไรดึกๆดื่นๆในทุ่งดอกทานตะวันแบบนี้ล่ะหืม โรเซ่” "อ..ก็มาเดินเล่นน่ะ พอดีบ้านกำลังสร้างอยู่" เธอยิ้มเล็กน้อย "หมู่บ้านสงบดีเนอะ" ..... "ว่าแต่ หมู่บ้านนี้เคยมีปัญหาไหม?"
"อ..ก็มาเดินเล่นน่ะ พอดีบ้านกำลังสร้างอยู่"
เขาโคลงหัวเข้าใจ “อ่อ...” แต่ก็ชักจะสงสัยว่าถ้าบ้านสร้างอยู่ คืนนี้คนตรงหน้าจะนอนไหน หรือมานอนในทุ่ง? อ่า..ไม่ใช่มั้ง
"หมู่บ้านสงบดีเนอะ"
“หือ?” แนชเอียงคอน้อยๆ จู่ๆอีกฝ่ายก็ถามออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาทวนคำถามโรเซ่ในใจ ชักใจอยู่ครู่นึงถึงได้ตอบ พลางแตะศอกคนตัวเล็กกว่าให้เดินไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยกัน
“ก็คงงั้นมั้งครับ ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ ความวุ่นวายมันก็ต้องน้อยกว่าอยู่แล้ว”
"ว่าแต่ หมู่บ้านนี้เคยมีปัญหาไหม?"
คำถามนี้ทำให้แนชเลิกคิ้วขึ้น เขานั่งลงเอนหลังพิงลำต้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนจะผินหน้ามาทางโรเซ่ แล้วถามกลับแทนการให้คำตอบ
“ทำไมโรเซ่ถึงถามแบบนั้น?”
|
|
|
Post by roseblacker on Sept 5, 2017 20:20:01 GMT 7
โป๊กก!! หัวทุยๆของโรเซ่ชนกับหัวของคนปริศนาที่อยู่ใกล้กันจนเกิดเสียง "โอยย " โรเซ่ร้องอย่างเจ็บปวด เธอเอามือกุมหัวเล็กน้อย ไม่มีเลือดใช่มะ.... สายตาของเธอเริ่มปรับตัวก่อนจะพบใครบางคนที่อยู่ใกล้เธอ เป็นคนที่เธอสนิทที่สุดในตอนนี้ "แนชหรอ..?" “เจ็บไหม” เสียงขี้เล่นของแนชพูดขึ้น "ก็เจ็บใช่เล่นนะ...โอย" โรเซ่ยิ้มทนกับความเจ็บปวด นั่นหัวหรือหินน่ะ...TT มือของเขาเข้าไปวางแหมะบนหัวของเธอ คล้ายกับปลอบโยน “ขอโทษนะครับบ ว่าจะแกล้งเล่นๆไม่คิดว่าจะพลิกล็อคมาอีหรอบนี้” แกล้งเล่นจนเจ็บตัวเลยนะ.... เธอคิดก่อนจะมองหน้าของแนช “และจะว่าไป… คนกลัวผีมาทำอะไรดึกๆดื่นๆในทุ่งดอกทานตะวันแบบนี้ล่ะหืม โรเซ่” "อ..ก็มาเดินเล่นน่ะ พอดีบ้านกำลังสร้างอยู่" เธอยิ้มเล็กน้อย "หมู่บ้านสงบดีเนอะ" ..... "ว่าแต่ หมู่บ้านนี้เคยมีปัญหาไหม?"
"อ..ก็มาเดินเล่นน่ะ พอดีบ้านกำลังสร้างอยู่"
เขาโคลงหัวเข้าใจ “อ่อ...” แต่ก็ชักจะสงสัยว่าถ้าบ้านสร้างอยู่ คืนนี้คนตรงหน้าจะนอนไหน หรือมานอนในทุ่ง? อ่า..ไม่ใช่มั้ง
"หมู่บ้านสงบดีเนอะ"
“หือ?” แนชเอียงคอน้อยๆ จู่ๆอีกฝ่ายก็ถามออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาทวนคำถามโรเซ่ในใจ ชักใจอยู่ครู่นึงถึงได้ตอบ พลางแตะศอกคนตัวเล็กกว่าให้เดินไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยกัน
“ก็คงงั้นมั้งครับ ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ ความวุ่นวายมันก็ต้องน้อยกว่าอยู่แล้ว”
"ว่าแต่ หมู่บ้านนี้เคยมีปัญหาไหม?"
คำถามนี้ทำให้แนชเลิกคิ้วขึ้น เขานั่งลงเอนหลังพิงลำต้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนจะผินหน้ามาทางโรเซ่ แล้วถามกลับแทนการให้คำตอบ
“ทำไมโรเซ่ถึงถามแบบนั้น?”
"ก็....มาใหม่ตั้งนานยังไม่รู้จักเมืองนี้มากพอน่ะ" โรเซ่เงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดลง ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาแทนที่ความสว่าง ความอบอุ่นแทนที่ด้วยความหนาวเย็น " ถ้าฉันถามอะไรไม่น่าพอใจก็ขอโทษด้วยนะ" โรสเงยหน้ามองท้องฟ้า เธอมองดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว กับดวงดาวที่สว่างไสว " ดาวนั้นเหมือนแกะเลยเนอะ..." .... เธอชี้ดวงดาวที่เรียงตัวกันเป็นรูปแกะ โรเซ่มองดวงดาวด้วยสีน่าฉดใฉ(?) "ตอนคุณลุงแพซตันมาน่ะ.... ครั้งแรกที่นายเจอเขาเป็นยังไงงั้นหรอ..?" ..... "พอดีอยากเห็นมุมมองนายบ้างเท่านั้นเองน่ะ..."
|
|
|
Post by thenash on Sept 7, 2017 19:55:41 GMT 7
"ก็....มาใหม่ตั้งนานยังไม่รู้จักเมืองนี้มากพอน่ะ" โรเซ่เงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดลง ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาแทนที่ความสว่าง ความอบอุ่นแทนที่ด้วยความหนาวเย็น " ถ้าฉันถามอะไรไม่น่าพอใจก็ขอโทษด้วยนะ" โรสเงยหน้ามองท้องฟ้า เธอมองดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว กับดวงดาวที่สว่างไสว " ดาวนั้นเหมือนแกะเลยเนอะ..." .... เธอชี้ดวงดาวที่เรียงตัวกันเป็นรูปแกะ โรเซ่มองดวงดาวด้วยสีน่าฉดใฉ(?) "ตอนคุณลุงแพซตันมาน่ะ.... ครั้งแรกที่นายเจอเขาเป็นยังไงงั้นหรอ..?" ..... "พอดีอยากเห็นมุมมองนายบ้างเท่านั้นเองน่ะ..."
"ก็....มาใหม่ตั้งนานยังไม่รู้จักเมืองนี้มากพอน่ะ" เขามองตามสายตาโรเซ่ที่เงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดลง ความหนาวเย็นค่อยๆปกคลุมไปทั่ว ดวงดาวบนท้องฟ้าแข่งกันเปร่งประกาย แต่ก็ยังสู้พระจันทร์ที่มีเพียงครึ่งเสี้ยวนั่นไม่ได้...
" ถ้าฉันถามอะไรไม่น่าพอใจก็ขอโทษด้วยนะ" "เปล่าหรอก" ร่างสูงโปร่งไหวไหล่แล้วยิ้มออกมา "ผมก็แค่ถามดูเหมือนกัน"
" ดาวนั้นเหมือนแกะเลยเนอะ..." "ไหน" สายตามองไปตามนิ้วของอีกฝ่ายไปที่ดวงดาวที่เรียงตัวกันเป็นรูปแกะ "มันคือกลุ่มดาวแอเรียส... กลุ่มดาวแกะตัวผู้ประจำราศีเมษ" เขาพูดขึ้นมาลอยๆ แววตาคู่คมเป็นประกายยามจ้องมองกลุ่มดาวนั้น ก่อนจะหัวเราะขำเมื่อเอ่ยประโยคถัดมา "ผมหาไม่เคยเจอเลยรู้ไหมโรเซ่ จนลิเดียชอบบอกว่าผมไม่มีจินตนาการเลยหาไม่เจอสักที" เขาคิดไปถึงเพื่อนสนิทที่มักส่ายหน้าหน่ายๆเวลาเขาบ่นว่าทำไมกลุ่มดาวถึงหายากนัก
"ตอนคุณลุงแพซตันมาน่ะ.... ครั้งแรกที่นายเจอเขาเป็นยังไงงั้นหรอ..?" "พอดีอยากเห็นมุมมองนายบ้างเท่านั้นเองน่ะ..."
"ลุงแพซตันน่ะเหรอครับ?" มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง เมื่อใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสแวบเข้ามาในความคิด "ก็เป็นลุงที่ใจดีมากๆ... มากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จัก ผมรู้จักลุงแพซมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว..." เขาเงียบไปพักหนึ่งราวกับกำลังจมลงในห้วงความคิดของตัวเอง "...ความจริงที่ผมได้ขายแกะขายวัวอยู่ที่ร้านคาวแอนด์ชีป ก็เพราะได้ลุงแพซตันเนี่ยแหละครับ ที่เอามาให้เลี้ยงแก้เบื่อ..." หลุบตามองปลายนิ้วตัวเองที่ลูบกลีบดอกทานตะวันอย่างเบามือ ก่อนจะเงยหน้าสบตากับร่างเล็กที่ยืนอยู่ รอยยิ้มค่อยๆคลี่ออกกว้าง "ลุงแพซเขาคงกลัวว่าผมจะว่างมากเกินไป" น้ำเสียงขี้เล่นบอกพลางหัวเราะกับคำพูดตัวเอง
"แล้วโรเซ่ล่ะครับ คิดว่าลุงแพซเป็นคนแบบไหน?"
|
|
|
Post by roseblacker on Sept 7, 2017 20:41:42 GMT 7
"ก็....มาใหม่ตั้งนานยังไม่รู้จักเมืองนี้มากพอน่ะ" โรเซ่เงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดลง ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาแทนที่ความสว่าง ความอบอุ่นแทนที่ด้วยความหนาวเย็น " ถ้าฉันถามอะไรไม่น่าพอใจก็ขอโทษด้วยนะ" โรสเงยหน้ามองท้องฟ้า เธอมองดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว กับดวงดาวที่สว่างไสว " ดาวนั้นเหมือนแกะเลยเนอะ..." .... เธอชี้ดวงดาวที่เรียงตัวกันเป็นรูปแกะ โรเซ่มองดวงดาวด้วยสีน่าฉดใฉ(?) "ตอนคุณลุงแพซตันมาน่ะ.... ครั้งแรกที่นายเจอเขาเป็นยังไงงั้นหรอ..?" ..... "พอดีอยากเห็นมุมมองนายบ้างเท่านั้นเองน่ะ..."
"ก็....มาใหม่ตั้งนานยังไม่รู้จักเมืองนี้มากพอน่ะ" เขามองตามสายตาโรเซ่ที่เงยหน้ามองฟ้าที่เริ่มมืดลง ความหนาวเย็นค่อยๆปกคลุมไปทั่ว ดวงดาวบนท้องฟ้าแข่งกันเปร่งประกาย แต่ก็ยังสู้พระจันทร์ที่มีเพียงครึ่งเสี้ยวนั่นไม่ได้...
" ถ้าฉันถามอะไรไม่น่าพอใจก็ขอโทษด้วยนะ" "เปล่าหรอก" ร่างสูงโปร่งไหวไหล่แล้วยิ้มออกมา "ผมก็แค่ถามดูเหมือนกัน"
" ดาวนั้นเหมือนแกะเลยเนอะ..." "ไหน" สายตามองไปตามนิ้วของอีกฝ่ายไปที่ดวงดาวที่เรียงตัวกันเป็นรูปแกะ "มันคือกลุ่มดาวแอเรียส... กลุ่มดาวแกะตัวผู้ประจำราศีเมษ" เขาพูดขึ้นมาลอยๆ แววตาคู่คมเป็นประกายยามจ้องมองกลุ่มดาวนั้น ก่อนจะหัวเราะขำเมื่อเอ่ยประโยคถัดมา "ผมหาไม่เคยเจอเลยรู้ไหมโรเซ่ จนลิเดียชอบบอกว่าผมไม่มีจินตนาการเลยหาไม่เจอสักที" เขาคิดไปถึงเพื่อนสนิทที่มักส่ายหน้าหน่ายๆเวลาเขาบ่นว่าทำไมกลุ่มดาวถึงหายากนัก
"ตอนคุณลุงแพซตันมาน่ะ.... ครั้งแรกที่นายเจอเขาเป็นยังไงงั้นหรอ..?" "พอดีอยากเห็นมุมมองนายบ้างเท่านั้นเองน่ะ..."
"ลุงแพซตันน่ะเหรอครับ?" มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง เมื่อใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสแวบเข้ามาในความคิด "ก็เป็นลุงที่ใจดีมากๆ... มากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จัก ผมรู้จักลุงแพซมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว..." เขาเงียบไปพักหนึ่งราวกับกำลังจมลงในห้วงความคิดของตัวเอง "...ความจริงที่ผมได้ขายแกะขายวัวอยู่ที่ร้านคาวแอนด์ชีป ก็เพราะได้ลุงแพซตันเนี่ยแหละครับ ที่เอามาให้เลี้ยงแก้เบื่อ..." หลุบตามองปลายนิ้วตัวเองที่ลูบกลีบดอกทานตะวันอย่างเบามือ ก่อนจะเงยหน้าสบตากับร่างเล็กที่ยืนอยู่ รอยยิ้มค่อยๆคลี่ออกกว้าง "ลุงแพซเขาคงกลัวว่าผมจะว่างมากเกินไป" น้ำเสียงขี้เล่นบอกพลางหัวเราะกับคำพูดตัวเอง
"แล้วโรเซ่ล่ะครับ คิดว่าลุงแพซเป็นคนแบบไหน?"
"แกเป็นคนดีมากๆเลยน่ะ ฉันได้คำแนะนำจากแกมาเยอะ" โรเซ่แอบลอบมองแนชเล็กน้อย เธออมยิ้มเล็กน้อย เขาถูกลิเดียว่าไม่มีจินตนาการ เหมือนเธอเลย ตอนที่เริ่มหัดเล่นดนตรีใหม่ๆ เธอดูเงอะๆงะๆและเล่นเพลงไม่สื่ออารมณ์ "เหมือนฉันเลยนะ ตอนนั้นฉันฝึกเล่นดนตรีครั้งแรก" แววตาของเธอหลับช้าๆคล้อยนึกถึงวันเก่าๆ ตอนนั้นโดนพ่อด่ายับเลย... เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าทิ้งความคิดออกไป "ฮิฮิ ตอนนั้นอ่อนหัดมากเลยล่ะ แต่เดี๋ยวก็จะพบ" เธอเช็ดแว่นเล็กน้อย ก่อนจะจิ้มไปที่แก้มของแนช นุ่มดีแฮะ~☆ เธอหัวเราะออกมา พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง "นายก็เหมือนกันแนช ไม่มีใครไร้จินตนาการไปตลอดหรอกนะ" ลมที่พัดมาอย่างแรงทำให้มือไม้อ่อนเล็กน้อย แว่นสีดำกลมโตของเธอร่วงหล่นลงกับพื้นหญ้า เสียงลมที่ผ่านมาทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงแว่นที่ตกลง "อือ..อยู่ไหนนะ..." สายตาของเธอปรับโฟกัสกับที่นี่ไม่ทัน ขนาดมองหน้าคนตัวสูงยังมองไม่ชัด อยู่ไหนของเธอ อิแว่น! "หาไม่เจอ โอ้ย! สีดำ" หัวของเธอโขกกับหัวของเขาโดยบังเอิญ หัวของเธอไหลไปซบตรงแผ่นหลังหนา โถ่เอ้ยย อยู่ไหนนะ "เอ้ย ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ!" ใบหน้าของเธออมสีชมพูเล็กน้อยเมื่อทำเรื่องหน้าอายออกไป เธออยากจะตบหัวตัวเองเหลือเกิน ดวงตาสีแดงฉายขึ้นเมื่อนึกอะไรออก "ไปส่งฉันที่บ้านหน่อยได้ไหม..." เธอพูดพรางปรับสายตา "ฉันมีแว่นสำรองที่บ้านฉัน" เธอมองไปรอบๆเมื่อเริ่มมืด "นะๆ ฉันเดินกลับไม่ได้จริงๆ จะลากจะจูงยังไงก็ได้--"
|
|
|
Post by thenash on Sept 8, 2017 14:39:34 GMT 7
"แกเป็นคนดีมากๆเลยน่ะ ฉันได้คำแนะนำจากแกมาเยอะ" โรเซ่แอบลอบมองแนชเล็กน้อย เธออมยิ้มเล็กน้อย เขาถูกลิเดียว่าไม่มีจินตนาการ เหมือนเธอเลย ตอนที่เริ่มหัดเล่นดนตรีใหม่ๆ เธอดูเงอะๆงะๆและเล่นเพลงไม่สื่ออารมณ์ "เหมือนฉันเลยนะ ตอนนั้นฉันฝึกเล่นดนตรีครั้งแรก" แววตาของเธอหลับช้าๆคล้อยนึกถึงวันเก่าๆ ตอนนั้นโดนพ่อด่ายับเลย... เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าทิ้งความคิดออกไป "ฮิฮิ ตอนนั้นอ่อนหัดมากเลยล่ะ แต่เดี๋ยวก็จะพบ" เธอเช็ดแว่นเล็กน้อย ก่อนจะจิ้มไปที่แก้มของแนช นุ่มดีแฮะ~☆ เธอหัวเราะออกมา พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง "นายก็เหมือนกันแนช ไม่มีใครไร้จินตนาการไปตลอดหรอกนะ" ลมที่พัดมาอย่างแรงทำให้มือไม้อ่อนเล็กน้อย แว่นสีดำกลมโตของเธอร่วงหล่นลงกับพื้นหญ้า เสียงลมที่ผ่านมาทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงแว่นที่ตกลง "อือ..อยู่ไหนนะ..." สายตาของเธอปรับโฟกัสกับที่นี่ไม่ทัน ขนาดมองหน้าคนตัวสูงยังมองไม่ชัด อยู่ไหนของเธอ อิแว่น! "หาไม่เจอ โอ้ย! สีดำ" หัวของเธอโขกกับหัวของเขาโดยบังเอิญ หัวของเธอไหลไปซบตรงแผ่นหลังหนา โถ่เอ้ยย อยู่ไหนนะ "เอ้ย ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ!" ใบหน้าของเธออมสีชมพูเล็กน้อยเมื่อทำเรื่องหน้าอายออกไป เธออยากจะตบหัวตัวเองเหลือเกิน ดวงตาสีแดงฉายขึ้นเมื่อนึกอะไรออก "ไปส่งฉันที่บ้านหน่อยได้ไหม..." เธอพูดพรางปรับสายตา "ฉันมีแว่นสำรองที่บ้านฉัน" เธอมองไปรอบๆเมื่อเริ่มมืด "นะๆ ฉันเดินกลับไม่ได้จริงๆ จะลากจะจูงยังไงก็ได้--"
"เหมือนฉันเลยนะ ตอนนั้นฉันฝึกเล่นดนตรีครั้งแรก" เขาส่งเสียงตอบรับในลำคอ พึ่งรู้ตอนนี้ว่าอีกฝ่ายก็เล่นดนตรีเหมือนกัน
“โดนหาว่าเล่นแบบไร้อารมณ์เหรอครับ” เขาพูดขำๆ และอดยิ้มตามไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายหัวเราะคิกคักออกมา อยากจะถามต่อว่าเล่นดนตรีชนิดไหน แต่ก็เก็บไว้ก่อน รู้สึกไม่อย่าขัดการเล่าเรื่องของคนตรงหน้าเท่าไร "ฮิฮิ ตอนนั้นอ่อนหัดมากเลยล่ะ แต่เดี๋ยวก็จะพบ"
เธอถอดแว่นตัวเองมาเช็ด ก่อนจะเอานิ้วมาจิ้มแก้มเขา แนชชะงักไปเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็ไม่ได้ปัดออก "นายก็เหมือนกันแนช ไม่มีใครไร้จินตนาการไปตลอดหรอกนะ"
เสียงหัวเราะของเธอ กับรอยยิ้มกว้างนั่นกำลังทำให้เขาตาพร่า ความสดใสของผู้หญิงตรงหน้ากลบกลืนความโดดเด่นของพระจันทร์ไปจนหมด
“โรเซ่ ใจเย็นก่อน เดี๋ยวผมช่วยหา เฮ้--”
เขากลับมาสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าเมื่อร่างเล็กดูลุกลีลุกลนไปหมด แว่นตาที่มักเห็นเธอสวมใส่ติดหน้าตลอดไม่อยู่บนนั้นแล้ว พอจะบอกให้อีกฝ่ายตั้งสติก่อน เขาจะช่วยหาดู เธอก็หันซ้ายมองขวาสะเปะสะปะ และสุดท้ายหัวก็มาชนกับเขาอีกจนได้
"หาไม่เจอ โอ้ย! สีดำ"
พอเขาขยับ หัวเธอก็ย้ายไปซบอยู่กลางแผ่นหลังเขาตอนไหนไม่รู้ แนชพลิกตัวกลับ ยึดหัวไหล่บางเอาไว้ให้ยืนดีๆ ไม่ขยับมั่วซั่วไปไหน
“โรเซ่ ใจเย็นๆ ก่อน” "เอ้ย ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ!"
เขาย่นคิ้วเมื่ออีกฝ่ายเหมือนไม่ได้ฟังที่เขาพูด แต่พอลอบเห็นผิวหน้าของโรเซ่ที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อ ความไม่พอใจก็พลันหายลับไปเหมือนไม่เคยรู้สึกทันที
น่ารักดี…
ไวเท่าความคิด ฝ่ามือหนายกขึ้นยีหัวสีไข่มุกของร่างเล็กตรงหน้าเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
"ไปส่งฉันที่บ้านหน่อยได้ไหม..."
แนชก้มหน้าลงสบดวงตาสีทับทิมคู่นั้น ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ ตอนแรกเขาว่าจะช่วยอีกฝ่ายหาแว่นตาที่ตกอยู่ใจกลางทุ่งดอกทานตะวัน แต่ในเมื่อ…
"ฉันมีแว่นสำรองที่บ้านฉัน"
ร่างสูงยกยิ้มมุมปากขึ้นน้อยๆ
"นะๆ ฉันเดินกลับไม่ได้จริงๆ จะลากจะจูงยังไงก็ได้--"
...ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาจะดันทุรังหาแว่นที่ตกไปแล้วอีกทำไมล่ะ
“ถึงโรเซ่ไม่ขอร้อง ผมก็คิดจะไปส่งอยู่แล้ว”
เขาอมยิ้ม แบมือออกแล้วจับมืออีกฝ่ายมาวางไว้บนนั้น กุมเอาไว้แนบแน่นคล้ายอยากให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ปล่อยจนกว่าจะถึงบ้านแน่นอน กระตุกแขนเบาๆให้ร่างเล็กขยับมาเคียงข้าง แล้วค่อยๆพาเดินออกจากทุ่งทานตะวันไปด้วยกัน
จนมาถึงหน้าบ้านของโรเซ่ เขาจึงยอมปล่อยมือออกอย่างอ้อยอิ่ง ไออุ่นจางๆยังคงทิ้งไว้ให้รู้สึกแปลกๆเหมือนมีมดไต่คันยิกๆในใจ และมันประหลาดดีที่เขาไม่ได้คิดว่าความรู้สึกแบบนั้นมันแย่เลย
“แว่นอยู่ในบ้านใช่ไหม อยู่ตรงไหนมองเห็นรึเปล่า” เขาชูสามนิ้วขึ้นมาตรงหน้าร่างเล็กในระยะห่างออกไปนิดหน่อย “อันนี้มีกี่นิ้ว” ... “ให้ผมเข้าไปหยิบให้ไหมโรเซ่”
|
|